เป็นการดีที่สุดที่เราจะป้อนข้อมูลเชิงเทคนิคที่ซับซ้อนให้กับผู้อ่าน ทีละน้อย ในจังหวะที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ นี่เป็นเรื่องที่ท้าทายความสามารถ แต่หากทำได้อย่างมีชั้นเชิงก็จะทำให้ไอเดียของเราได้พัฒนาเนื้อหาให้ก้าวหน้าไปด้วย และจะมากกว่าที่คุณวางไว้ตั้งแต่ต้น เรื่อง Daugther of Elysium เป็นการวาดภาพงานวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาตัวอ่อน และการมีชีวิตนิรันดร์ บทแรกของเรื่องเป็นการแสดงให้เห็นการสร้างตัวของหลอดหัวใจของตวอ่อน และเริ่มต้นมีการเต้น บทถัดมาให้ภาพของกระบวนการย่อย ๆ เกี่ยวกับเซลล์และเนื้อเยื่อ และถัดไปอีกมาก ๆ ก็เป็นเหตุการณ์วิกฤติขั้นโมเลกุลว่า ตัวอ่อนนั้นจะอยู่หรือตาย ถ้ารอดแล้ว มันจะมีการเสื่อมอายุขัยหรือไม่ และในระหว่างนั้น ก็จะมีพล็อตย่อย ๆ เกิดขึ้นในช่วงงานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ เหมือนกับที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง และเหตุการณ์แทรกเหล่านี้ก็มักจะก่อให้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงในงานของเขา ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเขาต้องพบกับญาติที่กำลังจะตาย ซึ่งเขาจะไม่มีโอกาสได้ประโยชน์จากงานวิจัยของเขาเลย
คุณสามารถใช้บทบาทของวิทยาศาสตร์ในเรื่องของคุณแสดงให้เห็นว่าปฏิกิริยาของตัวละคร และตัวละครเองนั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ในเรื่อง A Door into Ocean ผู้บุกรุกจากดาวอื่นตอบสนองต่อวิทยาการของพวก Sharers หลายแบบแตกต่างกัน บ้างก็พยายามทำลายวิทยาการนั้น บ้างก็ไม่สนใจ บ้างก็นำมันมาใช้ บ้างก็มีการยอมรับเอาแบคทีเรียมาไว้บนตัวเลย
จุดที่ผู้เขียนได้ไอเดียและนำมันมาใช้นั้น ช่วยให้งานของผู้เขียนราบรื่นมาเสมอ และอาจจะใช้ได้กับนักเขียนคนอื่นด้วย ในขณะเดียวกันเราต้องไม่หลงทางไปกับวิทยาศาสตร์ จงระลึกไว้ว่า สิ่งที่ทำให้นิยายวิทยาศาสตร์ดีก็เหมือนกับสิ่งที่ทำให้นิยายทั่ว ๆ ไปเป็นนิยายที่ดีนั่นคือ ความต่อเนื่อง ความมั่นคง ตัวละคร นี่คือสิ่งที่เราใส่ใจ