ข้อผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดในการเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ก็คือการ "เลกเชอร์" ผู้อ่าน แม้ไอเดียนั้นจะน่าทึ่งเพียงไหนก็ตาม นักเขียนต้องหล่อหลอมแนวคิดทางวิทยาศาสตร์นั้นอย่างกลมกลืนสนิทแนบแน่นกลับประสบการณ์อื่น ๆ ในเรื่องที่เขียน โดยการยึดหลัก "แสดงให้ดูไม่ใช่บอกให้ฟัง"
ลองพยายามให้แนวคิดของคุณเข้าไปพัฒนาบุคลิกของตัวละครหรือกลับกัน ยกตัวอย่างจากงานเขียนเรื่อง Door into Ocean ที่ประชากรที่เป็นผู้หญิงและเรียกตัวเองว่า Sharers มีถิ่นอาศัยอยู่ในดาวเคราะห์ที่เต็มไปด้วยมหาสมุทร วันหนึ่งผู้เขียนไปเจอกับนักวิจัยคนหนึ่งในห้องปฏิบัติการของผู้เขียน เขาให้ผู้เขียนดูขวดทดลองที่มีโปรตีนสีม่วงอยู่ เขาเพิ่งจะสกัดโปรตีนนี้ออกมาจากแบคทีเรีย เมื่อแสงส่องกระทบโปรตีนนี้ มันกลับฟอกสีตัวเองจนไร้สี จากจุดนี้ทำให้ผู้เขียนเกิดแนวคิดจะนำไปใช้กับตัวละครผู้หญิงในเรื่อง โดยการให้พวกเธอมีแบคทีเรียสีม่วงอาศัยอยู่บนผิวหนังแบบพึ่งพากัน ทำให้พวกเธอได้รับออกซิเจนส่วนเพิ่มจากแบคทีเรีย เมื่อออกซิเจนของพวกเธอต่ำลง ผิวหนังของเธอจะเปลี่ยนเป็นสีขาว คุณสมบัติในการฟอกสีตัวเองแบบนี้ต่อมาก็พัฒนาไปอย่างสำคัญเกี่ยวกับเรื่องของจิตวิญญาณ ทำให้พวก Sharers สามารถผ่านเข้าไปในทางเข้าพิเศษแห่งหนึ่งที่เรียกว่า whitetrance และทำให้พวกเธอทนต่อสภาพกดดันทางกายภาพมาก ๆ ได้เป็นการสนับสนุนความเชื่อทางศาสนาของพวกเธอ
คำอธิบายมักจะเป็นสิ่งจำเป็นอยู่เสมอ แต่สิ่งที่ต้องถามก็คือ มากน้อยแค่ไหน วิธีการที่ช่วยได้ก็คือการเรียงร้อยคำอธิบายที่จำเป็นให้เป็นบทสนทนา ทีละประโยค ในจุดที่เหตุการณ์เกิดขึ้น ยกตัวอย่างจากเรื่อง Daughter of Elysium แขกนักวิทยาศาสตร์ (เพิ่งไปถึงดาวในเรื่องได้ไม่นาน) ต้องพบกับจานเพาะเชื้อที่ทิ้งแล้ว แต่กลับมีชีวิตและพยายามจะกินลูกชายอายุสองขวบของเขา ทันทีก็มีนักเรียนเข้ามาช่วย และอธิบายถึงเจ้าจานเพาะเชื้อที่มีปัญญานั่น (จานนั้นประกอบขึ้นจากหุ่นยนต์จิ๋วเล็ก ๆ นับพันล้านตัว) และมันทำงานผิดพลาด อันที่จริงมันได้รับการออกแบบให้จัดการกับเนื้อเยื่อไม่ใช่กับเด็ก
ตัวอย่างอันเดียวกันนี้ยังอธิบายเงื่อนงำไปตามจังหวะเวลาด้วย มันใช้งานได้เมื่อจะต้องอธิบายเรื่องราวให้กับ ผู้มาเยือนในยามที่เขา ต้องการรู้ทุกสิ่ง ถ้าคุณอธิบายเรื่องราวอย่างไม่แจ่มแจ้งเกินไปพร้อมกับทำให้เรื่องดำเนินไปได้ก็ถือว่าใช้ได้ ในเรื่อง Jurassic Park จำเป็นต้องอธิบายเรื่องของการโคลนนิ่งได้โนเสาร์อย่างยาวมาก แต่ก็ยังสามารถทำให้เรื่องราวดำเนินไปได้ด้วยฉากที่เต็มไปด้วยเหตุการณ์สยองขวัญอย่างต่อเนื่อง
อีกวิธีหนึ่งในการอธิบายเรื่องก็คือ การใส่ทุกอย่างที่จำเป็นทั้งหมดลงไปในงานเขียนร่างที่หนึ่งของคุณ ถึงแม้คุณจะรู้ว่า มันมากเกินไปสำหรับผู้อ่านก็ตาม ในร่างถัดไป ก็จงตัดสิ่งเหล่านั้นออกไปซะ ละเว้นศัพท์วิชาการที่รู้กันเฉพาะผู้เชี่ยวชาญ หรือบัญญัติมันขึ้นมาใหม่ในภาษาที่ง่าย (ยกตัวอย่างคำว่า oogenesis หมายความว่า การผลิตไข่) วิทยาศาสตร์ก่อให้เกิดศัพท์ใหม่ ๆ มากมาย ดังนั้น พยายามใช้ศัพท์พวกนี้บางตัวเหมือนกับที่บางครั้งก็จำเป็นต้องใช้ศัพท์ภาษาต่างประเทศ
คำหรือสำนวนทางวิชาการบางอย่างก็คุ้มค่าที่จะคงมันไว้อย่างนั้นถ้ามันทำให้เรื่องดูดีกว่า จากเรื่อง Daughter of Elysium ผู้เขียนตกลงใช้ primodal germ cells ซึ่งทำให้เนื้อเรื่อง และตัวละครไปได้ดี แต่วลีอื่น ๆ ก็โดนตัดทิ้งหรือดัดแปลงไปหมดแล้ว